คุณทั้งคู่เป็นแบบนี้บ้างหรือไม่
- ฝ่ายหนึ่งอยากอยู่บ้านตลอด เพราะออกข้างนอกแล้วเหนื่อย ส่วนอีกฝ่ายอยู่ติดบ้านเกิน 2 วัน รู้สึกเหี่ยวเฉา หมดพลัง
- ฝ่ายหนึ่่งอยากคุยข่าวดราม่ารายวัน ราคาสินค้า ดารา นักร้อง อีกฝ่ายหนึ่งบอกไร้สาระ ถ้าจะคุยจะเป็นเรื่องแนวคิด ปรัชญา นามธรรม ไกลตัวมากกว่า
- ฝ่ายหนึ่งใช้ตรรกะเหตุผล และข้อมูลในการตัดสินใจ อีกฝ่ายคำนึงถึงความรู้สึกและผลกระทบต่อคนอื่นมากกว่า และมองว่าฝ่ายแรกใจหิน
- ฝ่ายหนึ่งต้องการตัดสินใจโดยเร็ว มีข้อสรุปชัดเจน อีกฝ่ายไม่อยากตัดสินใจอะไรมาก ชอบรอถึงนาทีสุดท้ายมากกว่า
- ฯลฯ
เมื่อเทียบกับคนอื่นแล้ว
หากคุณมีลักษณะนิสัยเช่น ขี้สงสัย ชอบตั้งคำถาม คิดเยอะ คิดมาก คิดในแง่มุมที่คนอื่นไม่คิด
ไม่ค่อยเชื่อใจใคร หรืออะไร คิดว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง ย้ำคิดย้ำทำ ขี้บ่น ฯลฯ
คุณอาจไม่รู้ตัวว่า นี่คือจุดเด่นของ คนเบอร์หก นักปุจฉา
สถานการณ์ของคุณเป็นแบบไหน
- เรียนอยู่หรือเพิ่งจบ แต่นึกไม่ออกว่าจะทำงานอะไรดี
- เรียนอยู่หรือเพิ่งจบ แต่กังวลว่าจะหางานไม่ได้
- กำลังเรียนอยู่ แต่รู้สึกสาขาที่เรียนไม่เหมาะกับตัวเอง
- ทำงานมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ไม่มีความสุขกับงานที่ทำ
- เพิ่งตกงาน แต่ไม่รู้จะหางานใหม่แบบไหนดี
- ฯลฯ
คุณเป็นแบบนี้หรือไม่
- สุดไปในทางใดทางหนึ่ง ไม่ค่อยมีกลางๆ
- ไม่หยุดยั้งการแสวงหา ไม่พึงพอใจกับอะไรง่ายๆ
- ต้องการความสมบูรณ์แบบอย่างมาก
- เต็มไปด้วยความขัดแย้งในตัว
- สัมผัสถึงด้านมืดในตัวคนได้ไวเหมือนตาเห็น
- เหมือนใช้ชีวิตอยู่ใน โลกคู่ขนานเดจาวู คือ โลกแห่งวัตถุที่เวลาเดินเป็นเส้นตรง และโลกแห่งสัญลักษณ์ ไร้กรอบเวลา
เราทุกคนมีความต้องการทั้งที่เหมือนกัน และที่แตกต่างกันหลายอย่าง
ตั้งแต่เด็ก เราไม่ได้รับการส่งเสริมให้ บอกความต้องการเหล่านั้้นออกมาตรงๆ
ผลก็คือ ทุกคนต้องเล่นบทบาทต่างๆ ใน Drama Triangle ด้วยความหวังว่า จะได้ในสิ่งที่เราต้องการอย่างอ้อมๆ
จุดประสงค์สำคัญในการเรียนรู้ เอ็นเนียแกรม คือการค้นพบไทป์เอ็นเนียแกรมของตนเอง พร้อมๆ ไปกับทำความเข้าใจคนไทป์อื่น
สิ่งที่ได้จากการค้นพบไทป์ตัวเอง คือ การตระหนักรู้ตัว ทั้งจุดแข็งที่สามารถนำมาใช้ให้เกิดข้อได้เปรียบ และเป็นประโยชน์ และจุดอ่อนที่ต้องลดให้น้อยลง
ถ้าคุณยังเป็นคนไทป์นี้ที่ยัง
- ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง เพราะยึดถือธรรมเนียม วิธีการ รูปแบบ วิถีชีวิต ฯลฯ ที่คุ้นเคยมากกว่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลง มักรู้สึกเครียด รวมไปถึงถ้าต้องเปลี่ยนนิสัยของตัวเอง
- คิดมากกับเรื่องไม่สำคัญ ไม่สามารถรับมือกับความขัดแย้งได้ มักถือสาหาความกับคำพูดของคนอื่น จนอาจนำสิ่งเหล่านั้นมาตัดสินตัวเอง
- ทำงานหนักเกินตัว อาจขยันจนถึงขั้นบ้างาน จนลืมมองเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า อาจยึดติดความสมบูรณ์แบบด้วย จนยามว่างก็ไม่ได้พักผ่อน
- เห็นแก่ผู้อื่นมากไป จนถูกเอาเปรียบ แต่ก็ไม่กล้าบอกหรือตัดความสัมพันธ์ เพราะกลัวความขัดแย้งอย่างมาก
กลไกป้องกันตนเอง (Defense Mechanism) เป็นกระบวนการทางจิตวิทยา ที่เราใช้ตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อปกป้องจิตใจให้อยู่รอด
หน้าที่สำคัญของมันคือ ทำให้เราไม่ต้องรับรู้ความเป็นจริง ซึ่งยากที่จะยอมรับได้ในวัยเด็ก
จุดประสงค์สำคัญในการเรียนรู้ เอ็นเนียแกรม คือการค้นพบไทป์เอ็นเนียแกรมของตนเอง พร้อมๆ ไปกับทำความเข้าใจคนไทป์อื่น
สิ่งที่ได้จากการค้นพบไทป์ตัวเอง คือ การตระหนักรู้ตัว ทั้งจุดแข็งที่สามารถนำมาใช้ให้เกิดข้อได้เปรียบ และเป็นประโยชน์ และจุดอ่อนที่ต้องลดให้น้อยลง
คนเรามีความแตกต่างกันโดยธรรมชาติตั้งแต่เกิด
แต่น้อยคนนัก ที่จะเข้าใจในธรรมชาติของตัวเอง เรื่องที่จะเข้าอกเข้าใจคนอื่น (Empathy) จึงเป็นเรื่องที่แทบเกิดขึ้นได้ยากมาก
ตัวอย่างของความแตกต่างดังกล่าวได้แก่
(more…)












