อ่านใจ ลูก 9 แบบ เพื่อพัฒนาให้ถูกทาง ด้วยเอ็นเนียแกรม

คุณพ่อคุณแม่แต่ละท่าน เคยรู้บ้างไหมว่า ลูกๆ เขาอยากเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่แบบไหน?

จุดเริ่มต้น ของการพัฒนาลูกๆ ให้เติบโตตามวันอย่างเหมาะสม คือ ความเข้าใจในตัวเด็ก นั่นคือ พ่อแม่ต้องตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างตนเองและลูกในด้านต่างๆ เช่น วัย ประสบการณ์ สิ่งแวดล้อม ค่านิยมตามยุคสมัย ตลอดจนความแตกต่างทางบุคลิกภาพพื้นฐาน ฯลฯ

ความรู้เอ็นเนียแกรม จึงเป็นอีกวิธีที่จะเข้าใจธรรมชาติของลูก เพื่อให้ทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ผสานความเข้าใจและปรับวิธีการดูแลที่เป็นมาตรฐานได้อย่างลงตัวมากที่สุด ซึ่งตอนที่แล้ว ผมได้เขียนถึง แรงจูงใจของพ่อแม่ทั้ง 9 แบบ เพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ได้เข้าใจถึงความคาดหวังตามเบอร์ที่เกิดจากแรงจูงใจลึกๆ ของแต่ละท่านที่ส่งผลต่อวิธีการเลี้ยงดูลูกแตกต่างกันไป แน่นอนว่า คุณพ่อคุณแม่แต่ละเบอร์ ส่วนใหญ่ก็มักอยากจะให้เขาเป็นแบบที่ตัวเองต้องการ

ครั้งนี้ เรามาดูในอีกมิติที่สำคัญต่อความเข้าใจ ที่เหลืออยู่นั่น คือ แรงจูงใจตามธรรมชาติของเด็ก 9 แบบ ครับ

เด็กสไตล์หนึ่ง


เด็กเบอร์นี้ ต้องการทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ มักเป็นเด็กเรียบร้อย จริงจัง ขยันมีวินัย  มีความรับผิดชอบ เชื่อฟังผู้ใหญ่และมีวุฒิภาวะกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน

พ่อแม่ อาจภูมิใจและดีใจ เมื่อคิดว่าลูกจะเป็นคนดี กตัญญู แต่หากให้การเสริมแรงกับพฤติกรรมเหล่านี้มากจนเกินไป เขาอาจเติบโตมามีลักษณะเป็น นักจัดระเบียบแบบสุดโต่งได้ เพราะจะควบคุมตัวเองจนเก็บกดความโกรธ ความอยากเล่นอยากสนุกตามวัยจนหงุดหงิด รวมทั้ง ขาดจินตนาการและการคิดนอกกรอบ คุณพ่อคุณแม่จึงควรมีแนวทางการดูแลดังนี้

 

 

คำแนะนำ

  • ให้ยึดหลักความพอดี หรือ ทางสายกลาง ให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบทุกเรื่อง ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่ยอมรับได้
  • ให้เขาได้เล่นสนุกสนาน ร่าเริง ตามธรรมชาติ เปิดโอกาสให้ลองผิดลองถูก เพื่อไม่ให้ชีวิตมีสิ่งที่ “ควรทำ” “ต้องทำ” อยู่ตลอดเวลา
  • อย่าคาดหวังให้เขาเป็นเด็กดีมากไป ตัวเขาเองก็เคี่ยวเข็ญตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งถ้าพ่อแม่เป็นคนเบอร์หนึ่งแบบเดียวกันโอกาสที่ลูกเบอร์หนึ่งจะเป็น ไม้บรรทัดตรงแน่วจะยิ่งมีสูงมากๆ

 

ตัวอย่างพ่อแม่ เบอร์ 1

เมื่อ วินัย กลับถึงบ้าน คำถามแรกตอนที่เจอหน้าลูกคือ ทำการบ้านเสร็จหรือยัง ข้าวของเครื่องใช้ เก็บเรียบร้อยไหม นอกจากนี้ ยังตั้งกฎเกณฑ์ในบ้านหลายอย่าง เช่น แก้วน้ำต้องวางกลับเข้าที่ทุกครั้ง ขึ้นลงบันไดห้ามมีเสียง ช้อนส้อมต้องใช้ให้ถูกคู่ เมื่อมีใครทำผิด ก็จะโดนลงโทษ

 

เด็กสไตล์สอง

เด็กเบอร์นี้ ต้องการเป็นที่รักและชื่นชม จึงชอบเอาอกเอาใจพ่อแม่ ให้ความสำคัญกับผู้อื่น ว่านอนสอนง่าย มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือ เข้ากับคนอื่นๆ ได้ง่าย บางคนก็ชอบประจบ แม้ว่าเด็กทุกคนต้องการ ความเอาใจใส่เป็นธรรมดา แต่สำหรับเด็กสไตล์นี้ การใส่ใจดูแลยิ่งต้องเพิ่มเป็นทวีคูณ เพราะเขาเชื่อว่า  ความสัมพันธ์ที่ดี ทำให้เขารู้สึกมีค่าในตนเอง การสวมกอดจากพ่อแม่จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่าให้เขารู้สึกว่า ขาดพร่องในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเขา เพราะอาจก่อให้เกิดปมปัญหาบางอย่างไปจนถึงวัยผู้ใหญ่

 

 

 

คำแนะนำ

  • ถ้าระดับความสัมพันธ์กับลูกดีอยู่แล้ว ควรสอนให้เขาได้แสดงความคิด และใช้เหตุผลให้มากๆ
  • สอนให้รู้จักคุณค่าในตัวเอง รับรู้ความต้องการของตัวเอง บอกออกมาตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม
  • สอนให้รู้จักการอยู่คนเดียวบ้าง
  • อย่าให้เขาทำอะไรให้คุณมากจนเกินไป เพราะจะเป็นการเสริมแรงให้เขายึดติดบุคลิกแบบนี้มากเกินไป จนเป็น “ผู้เสียสละ” แบบสุดโต่ง

 

ตัวอย่างพ่อแม่ เบอร์ 2

โสภา เป็น ผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อมีลูก เธอก็ลาออกมา เพื่อทุ่มเทแรงกายแรงใจใจการเลี้ยงลูก และรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง ก่อนมีลูก สามีคือ ชีวิตของเธอ พอมีลูก ลูกๆ ก็ได้ตำแหน่งนี้ไป เธอ ทั้งรับส่งลูกๆ ไปโรงเรียนด้วยตัวเอง ไม่ว่าพวกเขาต้องการอะไร เธอจะหามาให้ได้เสมอ จนเพื่อนๆ บอกว่า เธอตามใจลูกเกินไป

 

เด็กสไตล์สาม

เด็กเบอร์นี้ มีความมุ่งมั่น และเพียรพยายาม ทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จ มีความกระตือรือร้น เก่ง คิดเร็ว มั่นใจในตนเอง กล้าแสดงออก มีความสามารถหลายด้าน ชอบแข่งขัน ไม่เพียงแต่เรื่องเรียน อาจรวมถึง กีฬาอีกด้วย

พ่อแม่ส่วนใหญ่จะภูมิใจมากๆ หากลูกเป็นคนสไตล์นี้ เพราะคิดว่าโตขึ้นเขาต้องประสบความสำเร็จในชีวิต และค่านิยมของสังคมเน้นที่การแข่งขันด้วย

แต่ความภาคภูมิใจนี้ จะส่งเสริมให้เขาแสวงหาความสำเร็จอยู่เรื่อยๆ จนเข้าในว่า ต้องชนะ ต้องเก่ง ทุกอย่าง จึงจะได้รับการยอมรับจากคนอื่นๆ และ เป็น “ผู้แสวงหาความสำเร็จ” อย่างสุดโต่ง

คำแนะนำ

  • อย่าให้เขาเป็นคนที่ทำทุกอย่าง โดยไม่คำนึงวิธีการ เพื่อจะเอาชนะ โดยปราศจากความรู้สึกผิด
  • แสดงให้เขาเห็นว่า คุณรักเขาที่ตัวเขาเอง ไม่จำเป็นต้องเก่งหรือเป็นที่หนึ่ง เสมอไป
  • ชวนเขาพูดคุยเรื่องความรู้สึกจริงๆ ของตัวเอง ให้สัมผัสถึงการยอมรับความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ความผิดหวัง ความเบื่อ ความกลัว
  • ทำตัวเป็นแบบอย่างว่า คุณสามารถยอมรับ และแบ่งปันความรู้สึกนี้ เพื่อให้เขารู้สึกว่า ไม่ต้อง “ดูดี” ก็เป็นที่ยอมรับได้

 

ตัวอย่างพ่อแม่ เบอร์ 3

ทรงเกียรติ เป็นผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เขาไต่เต้ามาจากตำแหน่งเล็กๆ ในบริษัท ด้วยความสามารถ เขาเชื่อว่า ถ้าต้องการอะไร เขาสามารถทำให้สำเร็จได้ เคล็ดลับ คือ การวางเป้าหมาย และลงมือทำให้สำเร็จ ทำงานทุกวันอย่างไม่มีวันหยุด ถึงไม่อยู่มี่ทำงาน ในหัวเขาก็คิดแต่เรื่องงานตลอดเวลา

ทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่ง ของธรรมชาติเด็กทั้ง 9 แบบ เด็กๆ อีก 6 แบบ ที่เหลือก็มีความแตกต่างทางแรงจูงใจ ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องเข้าใจสิ่งเหล่านี้ เพื่อผสานทั้ง นิสัยคุณพ่อคุณแม่ และ ลูกๆ ให้ลงตัวมากที่สุด เพื่อให้เด็ก ๆ ได้พัฒนานิสัยที่เป็นจุดแข็ง เพื่อรองรับทักษะที่เขาต้องเรียนรู้ก่อนที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์ และสามารถใช้มันได้อย่างเหมาะสมและยืดหยุ่นตามสถานการณ์ที่เขาต้องเผชิญในอนาคต

ผมขอฝากบทประพันธ์ของ คาลิล ยิบราน ที่ถอดความโดย อาจารย์ระวี ภาวิไล ดังนี้ครับ

 

บุตรของเธอ ไม่ใช่บุตรของเธอ

เขาเหล่านั้นเป็นบุตรและธิดาแห่งชีวิต

เขามาทางเธอ แต่ไม่ได้มาจากเธอ

และแม้ว่าเขาอยู่กับเธอ แต่ก็ไม่ใช่สมบัติของเธอ

เธออาจให้ความรักแก่เขา  แต่ไม่อาจให้ความนึกคิดได้

เพราะว่าเขาก็มีความคิดของเขาเอง

เธออาจจะให้ที่อยู่อาศัยแก่ร่างของเขาได้

แต่มิใช่แก่วิญญาณของเขา

เป็นอย่างไรบ้างครับ กับการประยุกต์ใช้ เอ็นเนียแกรม ในชีวิตประจำวัน หากผู้อ่านติดตาม Blog เราอย่างต่อเนื่อง จะพบว่า การเข้าใจจิตวิทยาบุคลิกด้วยเอ็นเนียแกรม จะทำให้ท่านเข้าใจโลกใบนี้ได้มากขึ้น และสามารถประยุกต์ใช้ ทั้งในเรื่องการทำงาน และชีวิตส่วนตัว เพราะในชีวิตของเราต้องพบปะและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความเข้าใจในเรื่องคนจึงเป็นกุญแจสำคัญยิ่ง ที่จะทำให้เราได้คนพบความสุขของชีวิต ที่สามารถกำหนดได้ด้วยตัวคุณเอง

สุดท้ายนี้ หากผู้อ่าน เห็นว่าบทความจาก Blog เรามีประโยชน์ ผมอยากฝากให้ช่วยแชร์ เพื่อแบ่งปันความรู้นี้ให้คนที่ท่านรัก ได้เข้าใจคนให้มากขึ้น หรือ หากมี feedback อย่างไร สามารถพูดคุยกัน เพื่อการพัฒนาเนื้อหาของเพจอย่างต่อเนื่องครับ

ฟังบทสัมภาษณ์ ครูเคทและ อ. วาจาสิทธิ์ พ่อแม่และลูก 9 แบบ

[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=sCinnC6K4_I[/embedyt]


Reference: รู้จักเรา เข้าใจลูก 9 ลักษณ์ 9 สไตล์ ตามศาสตร์เอ็นเนียแกรม

โดย : วาจาสิทธิ์ ลอเสรีวานิช


อ. วาจาสิทธิ์ ลอเสรีวานิช (CPA, MBA, MA)
MD บ. สยามเอ็นเนียแกรม คอลซัลติ้ง จำกัด
– Certified Enneagram Trainer, Accredited Enneagram Teacher (IEA)
– Certified MBTI Practitioner
– ประสบการณ์ในบริษัทต่างๆ 20 ปี (ตำแหน่งสุดท้าย Finance & HR Director – Bisnews AFE)
– นำการสัมมนาหลักสูตร เอ็นเนียแกรม ให้กับองค์กรต่างๆ มากกว่า 500 รุ่น
– แปลหนังสือเอ็นเนียแกรม และอื่นๆ รวม 14 เล่ม